
ลดความเสี่ยงของคุณในการเป็นโรคอัลไซเมอร์
เบียทริซ ทอเบอร์ พริออร์, สาขาจิตวิทยาพัฒนาการ
ลองจินตานาการถึงภาพบุรุษไปรษณีย์ส่งพัสดุมาที่บ้านของคุณ ภายในกล่องคุณพบกับหัวใจคริสตัลอันสวยงามและโน้ตใบหนึ่ง คุณจึงเปิดการ์ดเพื่อดูว่าใครส่งของขวัญที่แสนสวยชิ้นนี้มาให้ด้วยความตื่นเต้น แม้ว่าลายมือจะอ่านง่ายแต่คุณกลับเจอปัญหาบางอย่าง การ์ดในนั้นถูกเขียนว่า “ด้วยรัก จากเบ็ตตี้” คุณไม่รู้ว่าเบ็ตตี้เป็นใครและคุณรู้สึกเศร้ามากที่ไม่รู้ว่าเธอคือใคร แต่เมื่อคุณเงยหน้าขึ้นมาจากการ์ด คุณก็เห็นชื่อ “เบ็ตตี้” เขียนอยู่บนรายชื่อติดต่อฉุกเฉินที่แขวนอยู่บนตู้เย็นของคุณ น้ำตาคุณก็เริ่มเอ่อและไหลลงมาเมื่อคุณพบว่าเบ็ตตี้คือน้องสาวของคุณเอง และนี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่เลยสำหรับบุคคลที่กำลังเผชิญกับภาวะสมองเสื่อม
ภาวะสมองเสื่อมเป็นคำอธิบายรวมๆ ของโรคหลายชนิดที่มีอาการเกี่ยวข้องกับ การสูญเสียความทรงจำ, พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป และ ความสามารถที่ลดลงในการคิดวิเคราะห์ โรคอัลไซเมอร์เป็นโรคที่พบบ่อยที่สุดในภาวะสมองเสื่อม และยังมีโรคหลอดเลือดสมอง, โรคลิววีบอดี และ โรคฮันติงตันซึ่งเป็นภาวะสมองเสื่อมประเภทหนึ่งเช่นเดียวกัน
ตามรายงานของสมาคมโรคอัลไซเมอร์ จะมีคนในสหรัฐอเมริกาเป็นโรคอัลไซเมอร์ในทุกๆ 65 วินาที ภายในปี 2050 จะมีคนในสหรัฐอเมริกาเป็นโรคอัลไซเมอร์ในทุกๆ 33 วินาที นอกเหนือจากสถิติดังกล่าวแล้ว ก็ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่น่าเศร้าใจที่ผู้ป่วยโรคความจำเสื่อม ครอบครัว และเพื่อนๆ ยังต้องเผชิญ
หากคุณมีสมาชิกในครอบครัวที่เป็นโรคสมองเสื่อม คุณอาจสงสัยว่ามีอะไรที่สามารถทำได้เพื่อช่วยป้องกันกลุ่มโรคนี้หรือไม่ สมองเป็นอวัยวะที่ซับซ้อนอย่างน่าทึ่ง ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะหาสาเหตุหรือวิธีรักษาภาวะสมองเสื่อม โรคฮันติงตันเป็นรูปแบบเดียวของภาวะสมองเสื่อมที่ดูเหมือนจะเกิดจากยีนที่บกพร่องเพียงยีนเดียว ในขณะที่ภาวะสมองเสื่อมรูปแบบอื่นๆ ยีนกลับดูมีส่วนเพียงเล็กน้อยในการทำให้เกิดโรค จากข้อมูลของ เกล็นน์ อี. สมิธ, ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ซึ่งเป็นนักประสาทวิทยาของ มาโย คลินิก ระบุว่ามียีนหลัก 3 ยีนที่ทราบกันดีว่าเป็นสาเหตุของภาวะสมองเสื่อม แต่ยีนทั้งสามนี้มีอยู่น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ของกรณีภาวะสมองเสื่อมในผู้ป่วยทุกราย ดังนั้นแทนที่จะกังวลเกี่ยวกับยีนของคุณ การย้อนกลับไปมองวิธีใช้ชีวิตของคุณเพื่อหาวิธีป้องกันและรักษาสุขภาพสมองของคุณอาจดีกว่า
วิธีป้องกันสมองของคุณจากโรคอัลไซเมอร์
พักผ่อนและอยู่ท่ามกลางความสงบ
สุขภาพสมองโดยรวมของคุณเชื่อมโยงกับตัวแปรหลายประการ ตัวอย่างเช่น ผู้คนมักประหลาดใจที่ได้รู้ว่าความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า และตารางเวลาการนอนหลับที่ไม่ดีจะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อม มันเป็นเรื่องปกติที่จะพบกับเหตุการณ์ที่น่าวิตกกังวล และช่วงเวลาแห่งความเศร้า อย่างไรก็ตามเมื่อความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าไม่ได้รับการรักษา สิ่งเหล่านี้จะกลายเป็นปัจจัยเพิ่มเติมที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพสมอง ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน วารสารชีวพฤติกรรมศาสตร์รายงานว่าความวิตกกังวลเป็นปัจจัยเสี่ยงในการพัฒนาภาวะสมองเสื่อม ในทำนองเดียวกัน ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Gerontology ก็รายงานว่าภาวะซึมเศร้าต่อเนื่องในช่วงบั้นปลายชีวิตเป็นตัวเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะสมองเสื่อมอย่างมีนัยสำคัญ สุดท้ายนี้ ก็ยังมีงานวิจัยมากขึ้นเรื่อยๆ ที่เชื่อมโยงการนอนหลับที่ไม่มีคุณภาพ กับ ระดับเบต้าอะไมลอยด์ที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นโปรตีนเหนียวๆ ที่พบมากในสมองที่มีภาวะความจำเสื่อม
กำจัดความเสี่ยง
การใช้ชีวิตบางรูปแบบ และ ความเสี่ยงทางสภาพแวดล้อมก็อาจส่งผลให้สุขภาพสมองไม่ดี เช่น การสูบบุหรี, การได้รับควันบุหรี่จากผู้อื่น, การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป, การใช้ยาเสพติดเพื่อความคึกคะนอง, การใช้ยาจากแพทย์อย่างไม่เหมาะสม, การสัมผัสกับยาฆ่าแมลง และ คุณภาพอากาศที่ไม่ดี ลองมาฟังข้อเท็จจริงเหล่านี้กันดีกว่า:
• สมองที่สุขภาพดีขึ้นอยู่กับการไหลเวียนโลหิตที่ดี ซึ่งนิโคตินจะจำกัดการไหลเวียนของเลือดในหลอดเลือดแดง การไหลเวียนโลหิตซึ่งดีต่อสุขภาพสมองจึงลดลง แอลกอฮอล์ทำให้การทำงานของสมองช้าลงและบกพร่อง แม้จะดื่มในระดับปานกลางก็ตาม และการดื่มแอลกอฮอล์ในระยะยาวสามารถนําไปสู่การเปลี่ยนแปลงอย่างถาวรเกี่ยวการทรงตัว ความจํา การควบคุมอารมณ์ และการประสานงานของสมอง
• ผู้คนทราบถึงผลกระทบที่เป็นอันตรายของยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย แต่ยาที่สั่งโดยแพทย์และยาที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์อาจมีผลกระทบระยะสั้นและระยะยาวต่อสุขภาพสมองเช่นกัน โปรดปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพของคุณเกี่ยวกับยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์และสรรพคุณของยานั้นๆ รวมถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพสมองของคุณ
• จากการวิจัยเกี่ยวกับผู้คนในชุมชนเกษตรกรรมในแคชเคาท์ตี รัฐยูทาห์ สรุปว่าการสัมผัสยาฆ่าแมลงอาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์และภาวะสมองเสื่อมรูปแบบอื่น ๆ ในระยะยาว
• Nurses’ Health Study ซึ่งติดตามศึกษาผู้หญิงมากกว่า 19,000 คน ได้ตีพิมพ์ผลการวิจัยใน Archives of Internal Medicine ว่าการสัมผัสมลพิษทางอากาศในระดับที่สูงขึ้นในระยะยาวนั้นสัมพันธ์กับการลดลงของความสามารถในการรับความรู้ความเข้าใจ
มันยากที่จะหาความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างสารพิษ และโรคต่างๆ เช่น โรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากมีหลายตัวแปรที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามการศึกษาเหล่านี้ได้เน้นย้ำถึงประโยชน์ของการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพที่ดี (อาทิ การทานอาหารออร์แกนิก การไม่ใช้ยาฆ่าแมลงในบ้านและสวน และ หลีกเลี่ยงนิโคตินและควันบุหรี่)
สร้างนิสัยที่ดีต่อสุขภาพตอนนี้
การออกกำลังกาย และ อาหารเพื่อสุขภาพนั้นมีส่วนช่วยในการพัฒนาการป้องกันตัวเองของสมอง ริชาร์ด เอส. ไอแซคสัน, แพทยศาสตร์บัณฑิต ซึ่งเป็นผู้อำนวยการคลินิกป้องกันอัลไซเมอร์ที่ เวอิลล์ คอร์เนล เมดิซีน แนะนำให้ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพที่มีไขมันอิ่มตัวต่ำ และอาหารที่เต็มไปด้วยสารอาหาร เช่น ผักใบเขียว เบอร์รี่ ขมิ้น และ ถั่ว
และสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ก็คือประโยชน์จากการออกกำลังกาย มูลนิธิวิจัยและป้องกันอัลไซเมอร์รายงานว่าการออกกําลังกายเป็นประจําสามารถลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์
ด้วยความเสี่ยงและปัจจัยป้องกันที่เป็นไปได้มากมาย คุณควรเริ่มจากตรงไหนดีล่ะ เริ่มต้นในที่ที่คุณอยู่ตอนนี้ เปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ทีละครั้ง ขึ้นบันไดแทนลิฟต์ กินสลัด นอนหลับเพิ่มอีกหนึ่งชั่วโมงในแต่ละคืน เพราะการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในวันนี้จะนําไปสู่สมองที่แข็งแรงในวันหน้านั่นเอง
เบียทริซ ทอเบอร์ พริออร์, สาขาจิตวิทยาพัฒนาการ เป็นนักจิตวิทยาคลินิก, นักเขียน และเจ้าของ ฮาร์เบอร์ไซด์ เวลล์บีอิ้ง ในนอร์ทแคโรไลนา การเดินทางของเธอและครอบครัวกับโรคที่ไม่มีทางหายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอตีพิมพ์หนังสือเด็กเรื่อง Grandma and Me: A Kid’s Guide for Alzheimer’s & Dementia